Thursday, March 12, 2009

ความฝันรังสรรค์



หลายครั้งที่ฝัน ตื่นมาเหมือนเป็นจริง ทั้งใจยังเต้นแรงดุจในความฝัน แต่มันหามีสิ่งใดเป็นจริงไม่
แต่ฝันก็อาจมีความหมาย เพื่อผ่านบางสิ่งหรือเป็นนิมิตอธิบายบางเรื่องของจิตใจ

วันนี้พลิกอ่านเรื่องหนึ่ง ที่โซเกียล รินโปเช เขียนไว้ว่า

แม้ในมนุษยภูมินี้ ทุกผู้คนล้วนมีกรรมเป็นเครื่งปรุงแต่ง แม้ว่ามนุษย์จะแลดูคล้ายคลึงกัน แต่เรากลับแลเห็นสิ่งต่างๆผิดแผกแตกต่างกันเป็นอันมาก เราต่างมีชีวิตอยู่ในโลกส่วนตัวที่เป็นเฉพาะและแยกขาดออกจากกัน ดุจดังที่คาลุ รินโปเช ได้กล่าวไว้ว่า :

"ถ้ามีคนร้อยคนนอนหลับและฝัน แต่ละคนก็จะฝันถึงโลกที่แตกต่างกันออกไป ความฝันของแต่ละคนอาจกล่าวไว้ว่าเป็นสิ่งจริงแต่การที่จะยืนยันว่าความฝันของผู้หนึ่งผู้ใดจริงที่สุดและของคนอื่นเป็นของปลอมนั้น นับว่าเป็นการกระทำที่ไร้สาระ ทุกสิ่งที่ผู้คนรับรู้ล้วนเป็นสิ่งจริงตามแต่กรรมจะปรุงแต่งสัมผัสรับรู้ของเขา"

เรื่องของกรรมมิใช่เรื่องคอขาดบาดตาย หรือเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้ว หากแต่กรรมหมายถึงความสามารถของเราที่จะสร้างสรรค์หรือเปลี่ยนแปลง มันเป็นสิ่งสร้างสรรค์ด้วยเหตุที่เราสามารถเป็นผู้เลือกว่าเราจะกระทำด้วยอาการเยี่ยงไร เราอาจเป็นผู้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ อนาคตอยู่ในกำมือของเรา อยู่ในอุ้งหัตถ์แห่งดวงใจของเรา พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า

กรรมคือผู้รังสรรค์ ดุจศิลปิน
กรรมคือผู้บัญญัติ ดุจดังนาฏกร


ภาวนาคือชีวิต ๒,
กุมภาพันธ์ ๕๒

No comments: